กระบองเพชรเก๋งจีน

กระบองเพชรเก๋งจีน

เก๋งจีนเลี้ยงยังไง?

สมาชิกถามกันมามากคะ. ว่าเก๋งจีนเลี้ยงยังไงให้ออกดอกเรื่อยๆ. แอดมินเลยเอามาตอบในโพสต์เลยนะคะ. เผื่อสมาชิกท่านอื่นจะได้นำไปปฏิบัติ.

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเก๋งจีนกันก่อน

- เก๋งจีนชอบดินโปร่งๆมีลมพัดผ่าน

- เก๋งจีนบางชนิดชอบแดด แต่บางชนิดก็ไม่ชอบแดด

- เก๋งจีนไม่ต้องการน้ำมากหรือแฉะเกินไป. การให้น้ำอาทิตย์ละ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละพื้นที่และดินที่ใช้ปลูก

อย่างหน้าฝนอากาศภายนอกชื้นก็รดน้ำอาทิตย์ละ1-2/ครั้ง/สัปดาห์ เราควรสังเกตุดูดินที่ปลูกว่ายังชื้นหรือแฉะอยู่หรือไม่ก่อนที่จะรดน้ำ.

- การให้ปุ๋ย มีทั้งแบบเม็ดและแบบน้ำจะฉีดหรือรดได้ทั้งนั้น เป็นปุ๋ยที่ให้เหมือนแคนตัวทั่วไปคะ

- ควรสังเกตุดูว่ามีตัวอ่อนผีเสื้อมาเกาะหรือเปล่า. ถ้ามีต่องรีบกำจัดออกก่อนที่ต้นจะหายไปในพริบตา. หนอนพวกนี้ชอบกินเก๋งจีนมาก และซื้อยากำจัดพวกเพลี้ยต่างๆ ตามท้องตลาดมีจำหน่าย

วิธีการก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่คะ ลองเลี้ยงดูคะแล้วคุณจะหลงรักเก๋งจีนโดยไม่รู้ตัว

ที่มา : https://www.facebook.com/Succulantandhuenia/

ประโยชน์

กระบองเพชร นำมาตั้งหน้าคอมพิวเตอร์ สามารถช่วยลดรังสีที่แผ่ออกมาจากคอมพิวเตอร์ได้

อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า แสงในหลอดไฟ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์เมื่อมีการใช้งานนานๆ จะส่งผลต่อสายตา ก่อให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุตา

และแสบตาไปจนถึงขั้นปวดศีรษะและอาเจียน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วกว่าเดิม หรือปัญหาประสาทตาเสื่อม

   จากการวิจัยพบว่า “ หนาม ” ของแคคตัสหรือกระบองเพชรเป็นสื่อดูดรังสีจากโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ ยิ่งกระบองเพชรที่มีหนามมากก็น่าจะดูดรังสีได้มาก   สำหรับจักษุแพทย์ของไทยกล่าวว่าการที่กระบองเพชรสามารถดูดรังสีได้นั้นน่าจะเป็นเพชรว่า พืชสีเขียวมีคลอโรฟิลล์รับแสงแดดอยู่แล้วในการปรุงอาหาร ฉะนั้นกระบองเพชรมีสีเขียวมีโอกาสดูดซับรังสีจากคอมพิวเตอร์ได้บางส่วน แทนที่จะกระจายให้ผู้ใช้โดยตรงเท่านั้น

ปัจจุบันนิยมนำมาตั้งหน้าคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น บางคนก็นำมาตั้งไว้เพื่อความสวยงามเพราะต้นขนาดเล็กแถมมีประโยชน์อีกด้วย

ที่มา : https://sites.google.com/site/kaelovemickeymickey/prayochn-khxng-tn-krabxng-phechr

การดูแล

การรดน้ำ วิธีการลดน้ำที่ถูกต้องคือต้องรดให้โชกถึงราก และรดครั้งต่อไปเมื่อดินเริ่มแห้ง ระวังอย่าให้น้ำขังหรือดินแฉะ แคคตัสอาจเน่าหรือเป็นโรคตายได้

ต้องรู้ไว้ก่อนว่าแคคตัสแต่ละพันธุ์มีความต้องการปริมาณน้ำและความถี่ในการรดน้ำต่างกันไป จึงมีวิธีทดสอบง่ายๆ โดยการปักไม้แห้งเล็กๆ ลงไปให้ลึกถึงโคนกระถางในวันที่รดน้ำ เมื่อนับระยะเวลาจากวันที่รดน้ำวันแรกจนถึงวันที่ไม้ปักแห้ง ก็จะได้ช่วงเวลาในการลดน้ำที่เหมาะสม

2. แสงแดดและอุณหภูมิ ช่วงแดดที่เหมาะสมกับแคคตัสนั้นเป็นช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายที่แดดไม่ร้อนมาก นัก ถ้าได้รับแสงมากเกินไปต้นไม้จะแห้งเป็นสีน้ำตาล ดังนั้นต้องใส่ใจเรื่องร่มเงาหรือพรางแสงให้เหลือประมาณ 70-80% แคคตัสส่วนใหญ่เป็นพืชเมืองร้อนอยู่แล้ว ในเมืองไทยจึงสามารถเลี้ยงแคคตัสได้ดีในเกือบทุกฤดูในอุณหภูมิราว 27-32 องศาเซลเซียส

3. ธาตุอาหารหรือปุ๋ย ส่วนมากนิยมใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ เพราะมีสูตรให้เลือกมากมาย ซึ่งทำให้เกิดชนิดและปริมาณธาตุอาหารได้ง่าย ปริมาณการให้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแคคตัสแต่ละพันธุ์ ขนาดต้น รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการปลูก แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ปุ๋ยเข้มข้นจนเกินไป

ที่มา : http://www.sanook.com/home/4185/

รูปภาพตัวอย่าง

http://scontent.cdninstagram.com

http://scontent.cdninstagra

m.com

http://finfingarden.blogspot.com